อาหารบำรุงเลือด: สร้างสุขภาพดีจากภายใน

อาหารบำรุงเลือด

การมีสุขภาพดีเริ่มต้นจากการดูแลตัวเองจากภายใน และ “เลือด” คือส่วนสำคัญที่หล่อเลี้ยงทุกอวัยวะในร่างกาย หากร่างกายมีปริมาณเลือดที่เพียงพอและมีคุณภาพ ก็จะทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ไม่เหนื่อยง่าย และห่างไกลจากภาวะโลหิตจาง การบำรุงเลือดสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งได้แก่ ธาตุเหล็ก, วิตามินบี 12, โฟเลต (วิตามินบี 9) และวิตามินซี

สารอาหารสำคัญและแหล่งอาหารที่ช่วยบำรุงเลือด

การเลือกอาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตเม็ดเลือดแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ธาตุเหล็ก (Iron): เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
    • ธาตุเหล็กจากสัตว์ (Heme-iron): ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าธาตุเหล็กจากพืช พบมากใน
      • เนื้อสัตว์: เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู
      • เครื่องในสัตว์: ตับหมู, ตับไก่, เลือดหมู
      • อาหารทะเล: หอยแครง, หอยแมลงภู่, กุ้ง, ปลาทูน่า
    • ธาตุเหล็กจากพืช (Non-heme iron): แม้จะดูดซึมได้น้อยกว่า แต่ก็เป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดี พบได้ใน
      • ผักใบเขียวเข้ม: ผักโขม, คะน้า, ตำลึง, บรอกโคลี
      • ธัญพืชและถั่ว: ถั่วแดง, ถั่วดำ, ถั่วเลนทิล, ถั่วเหลือง, งา
      • อื่นๆ: ไข่แดง, เต้าหู้, ข้าวเสริมธาตุเหล็ก
  2. วิตามินซี (Vitamin C): มีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร โดยเฉพาะธาตุเหล็กจากพืช
    • แหล่งอาหาร: ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม, มะนาว, สับปะรด รวมถึงฝรั่ง, มะเขือเทศ, สตรอว์เบอร์รี และพริกหวาน
  3. วิตามินบี 12 (Vitamin B12): มีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้สมบูรณ์ หากขาดจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้
    • แหล่งอาหาร: เนื้อสัตว์, ปลา, สัตว์ปีก, ไข่, นม และผลิตภัณฑ์จากนม
  4. โฟเลต (Folate หรือ Vitamin B9): ทำงานร่วมกับวิตามินบี 12 เพื่อช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเซลล์ใหม่ๆ ในร่างกาย
    • แหล่งอาหาร: ผักใบเขียวเข้ม, ถั่วชนิดต่างๆ, หน่อไม้ฝรั่ง, อะโวคาโด และผลไม้ตระกูลเบอร์รี

เมนูอาหารบำรุงเลือดที่ทำได้ง่ายๆ

การนำวัตถุดิบข้างต้นมาปรุงอาหาร จะช่วยให้การบำรุงเลือดเป็นเรื่องที่อร่อยและง่ายขึ้น

  • ต้มเลือดหมู: เมนูยอดนิยมที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กสูงจากเลือดและตับหมู
  • ผัดผักโขม/คะน้า/ตำลึงกับเนื้อสัตว์: การผัดผักใบเขียวกับเนื้อสัตว์จะช่วยให้ได้รับธาตุเหล็กจากทั้งสองแหล่ง และหากบีบมะนาวเพิ่มลงไปเล็กน้อยก็จะช่วยให้ดูดซึมได้ดีขึ้น
  • หอยแครงลวก: หอยแครงเป็นแหล่งธาตุเหล็กชั้นดี สามารถรับประทานเป็นอาหารว่างหรือกับข้าวได้
  • ยำผักกูดกุ้งสด: ผักกูดมีธาตุเหล็กสูง การนำมาทำยำคู่กับกุ้งและมะนาว จะได้ทั้งรสชาติและคุณค่าทางอาหารครบถ้วน
  • ส้มตำ: แม้จะเป็นเมนูที่เน้นรสชาติ แต่การใส่พริก, มะเขือเทศ และมะนาวลงไป ก็จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากผักอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

  • หลีกเลี่ยงการดื่มชาและกาแฟพร้อมมื้ออาหาร: สารแทนนินในชาและกาแฟจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก
  • การทานอาหารเสริม: หากมีภาวะโลหิตจางรุนแรงหรือมีอาการซีด อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการทานยาหรืออาหารเสริมธาตุเหล็กควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร
  • ผู้ที่ทานมังสวิรัติหรือวีแกน: ควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารจากพืชที่มีธาตุเหล็กสูง และรับประทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีเพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึม

การบำรุงเลือดไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เลือกทานอาหารให้หลากหลายและเหมาะสม ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีจากภายในได้อย่างยั่งยืน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save