ค่า BMI มีกี่ระดับ และคำนวณอย่างไร?
BMI (Body Mass Index) เป็นค่าดัชนีมวลกายที่ใช้ประเมินภาวะน้ำหนักตัวของบุคคลโดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักและส่วนสูง โดยการคำนวณ BMI เป็นวิธีการที่ง่ายและเป็นที่ยอมรับในทางการแพทย์ในการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว
วิธีคำนวณค่า BMI
สูตรการคำนวณ BMI คือ
BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เมตร)²
ตัวอย่างเช่น
- หากคุณมีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม และส่วนสูง 1.75 เมตร
- ค่า BMI = 70 ÷ (1.75)² = 70 ÷ 3.06 = 22.88
ค่า BMI มีกี่ระดับ?
ค่า BMI จะแบ่งออกเป็นหลายระดับ ดังนี้
- น้อยกว่า 18.5: น้ำหนักน้อยหรือผอมเกินไป
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารหรือพลังงาน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ - 18.5 – 22.9: น้ำหนักปกติหรือเหมาะสม
อยู่ในช่วงที่สุขภาพดี ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกี่ยวกับน้ำหนักต่ำ - 23.0 – 24.9: น้ำหนักเกิน
เริ่มมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจ - 25.0 – 29.9: โรคอ้วนระดับ 1
มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักมากขึ้น - 30.0 ขึ้นไป: โรคอ้วนระดับ 2
เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และมะเร็งบางชนิด
ข้อควรระวังในการใช้ค่า BMI
แม้ว่า BMI จะเป็นเครื่องมือที่ดีในการประเมินภาวะน้ำหนัก แต่ก็มีข้อจำกัด เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงปริมาณกล้ามเนื้อและไขมันในร่างกาย เช่น นักกีฬาที่มีกล้ามเนื้อมากอาจมีค่า BMI สูง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีไขมันเกินเกณฑ์
ดังนั้น ค่า BMI จึงควรใช้ควบคู่กับการประเมินสุขภาพอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น