แม้ว่า เนื้อวัว จะเป็นแหล่งโปรตีนและธาตุเหล็กชั้นดี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงโลหิต แต่หากกินผิดวิธี หรือจับคู่กับอาหารบางอย่าง ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้โดยไม่รู้ตัว อาหารที่ไม่ควรกินคู่กับเนื้อวัว รวมถึงมีบางกลุ่มคนที่ควรเลี่ยงหรือจำกัดการทานเนื้อวัวเพื่อหลีกเลี่ยงโรคซ้ำซ้อนหรือภาวะแทรกซ้อน
4 อาหารที่ไม่ควรกินคู่กับเนื้อวัว
1. ลูกพลับ
มี “กรดแทนนิก” ที่ทำปฏิกิริยากับแคลเซียมในเนื้อวัว กลายเป็นสารตกค้างในลำไส้ เสี่ยงนิ่ว หรืออาหารไม่ย่อย
2. ชาเขียว
กรดแทนนิกในชารวมกับโปรตีนในเนื้อวัว ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าลง เสี่ยงท้องผูก ควรเว้นอย่างน้อย 2 ชม. ก่อนดื่มชา
3. ไข่
ทั้งไข่และเนื้อวัวมีโปรตีนสูง หากกินพร้อมกันอาจย่อยยาก เสี่ยงท้องอืดหรือท้องเสีย โดยเฉพาะในผู้มีระบบทางเดินอาหารอ่อนแอ
4. ถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองและเนื้อวัวมีพิวรีนสูง เสี่ยงสะสมกรดยูริกในเลือด เพิ่มโอกาสเป็นโรคเกาต์และข้ออักเสบ
7 กลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด “เนื้อวัว”
- ผู้มีโรคหัวใจ/คอเลสเตอรอลสูง
เนื้อวัวไขมันสูง เพิ่มความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน ควรเลือกเนื้อไม่ติดมันหรือเปลี่ยนเป็นโปรตีนจากปลา - ผู้เป็นโรคเกาต์/กรดยูริกสูง
พิวรีนในเนื้อวัวทำให้กรดยูริกเพิ่ม ควรหลีกเลี่ยงเนื้อแดงโดยเฉพาะเครื่องในสัตว์ - ผู้มีไข้หรืออักเสบ
เนื้อวัวมีฤทธิ์ร้อน ย่อยยาก ทำให้ร่างกายเสียพลังงานมากขึ้นในช่วงฟื้นไข้ - ผู้มีปัญหาย่อยอาหาร
เนื้อวัวไขมันต่ำ ย่อยช้า ทำให้ท้องอืด/แน่น ควรต้มให้เปื่อยหรือทานกับผัก - ผู้เป็นนิ่วในไต
โปรตีนจากสัตว์กระตุ้นแคลเซียมในปัสสาวะ อาจเกิดนิ่วในไต ควรทานให้น้อยลง - ผู้เพิ่งผ่าตัด/แผลยังไม่หาย
เสี่ยงแผลบวมช้ำ รอยคล้ำ เพราะร่างกายใช้พลังย่อยมากเกินช่วงฟื้นตัว - ผู้แพ้เนื้อแดง (Alpha-gal allergy)
อาจแพ้ถึงขั้นช็อก ควรหลีกเลี่ยงทุกเมนูเนื้อวัวและเนื้อแดงทุกชนิด
ข้อแนะนำ อาหารที่ไม่ควรกินคู่กับเนื้อวัว
- ถ้ารักเนื้อวัว: เลือกส่วนไม่มีมัน ปรุงให้สุกและนุ่ม หลีกเลี่ยงการทอดหรือย่างไหม้เกรียม
- จับคู่ให้ดี: ทานคู่กับผักใบเขียวหรือน้ำเปล่าจะช่วยให้ย่อยง่าย
- หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนวางแผนโภชนาการ