การเกณฑ์ทหาร ถือเป็นหน้าที่สำคัญของชายไทยเมื่ออายุครบ 21 ปี โดยนอกจากจะพิจารณาความสูงและรอบอกแล้ว น้ำหนักและดัชนีมวลกาย (BMI) ก็มีผลต่อการคัดเลือกทหารด้วย เนื่องจาก BMI สามารถบ่งบอกถึงภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการรับราชการทหาร
ค่า BMI คืออะไร?
ค่า BMI หรือดัชนีมวลกาย คือ ค่าที่ใช้ในการคำนวณหาน้ำหนักตัวที่สมดุลกับส่วนสูง โดยค่าดังกล่าวช่วยในการจำแนกว่าอยู่ในภาวะน้ำหนักน้อย ปกติ น้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน ซึ่งแพทย์สามารถใช้ค่านี้เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ค่าที่ได้จากการคำนวณมีดังนี้:
- น้อยกว่า 18.5: น้ำหนักน้อย เสี่ยงสารอาหารไม่พอ
- 18.6-22.9: น้ำหนักปกติ ดีต่อสุขภาพ
- 23.0-24.9: น้ำหนักเกิน เสี่ยงโรคบางชนิด
- 25.0-29.9: เริ่มมีความอ้วน เสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
- 30 ขึ้นไป: อ้วนมาก เสี่ยงโรคร้ายแรง
ค่า BMI กับการเกณฑ์ทหาร
ตามกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหาร ชายไทยที่มี BMI ตั้งแต่ 35 ขึ้นไป จะได้รับการยกเว้นจากการรับราชการทหาร เนื่องจากจัดว่าอยู่ในภาวะอ้วนมาก (Obesity) อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกยังขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละพื้นที่ หากจำนวนผู้สมัครเต็ม อาจส่งผลให้ผู้ที่มี BMI สูงถูกคัดออกได้
วิธีการเพิ่มหรือลดค่า BMI
การเพิ่มหรือลดค่า BMI ขึ้นอยู่กับการควบคุมน้ำหนัก:
- หากมี BMI น้อยกว่า 18.5 ควรเพิ่มน้ำหนักด้วยการรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงและสารอาหารที่เพียงพอ
- หากมี BMI มากกว่า 35 ควรลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอและควบคุมอาหาร