มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal Cancer) เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยในคนทั่วโลก เกิดขึ้นจากการเติบโตผิดปกติของเซลล์ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจพัฒนาจนกลายเป็นมะเร็งได้หากไม่ตรวจพบหรือรับการรักษาในระยะแรก ๆ
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากอะไร?
มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากหลายปัจจัย รวมถึง
- พันธุกรรม: หากมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โอกาสเกิดโรคจะสูงขึ้น
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร: การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โปรตีนจากเนื้อแดง หรือเนื้อแปรรูปมากเกินไป
- อาการลำไส้อักเสบเรื้อรัง: โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังหรือโรค Crohn อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้
- การใช้ชีวิตประจำวัน: ขาดการออกกำลังกาย ดื่มแอลกอฮอล์มาก หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ
มะเร็งลำไส้ใหญ่มีกี่ระยะ?
มะเร็งลำไส้ใหญ่แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
- ระยะที่ 1: มะเร็งยังจำกัดอยู่ในผนังชั้นในของลำไส้ใหญ่
- ระยะที่ 2: มะเร็งเริ่มลุกลามเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อของลำไส้ แต่ยังไม่แพร่กระจาย
- ระยะที่ 3: มะเร็งลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง
- ระยะที่ 4: มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่น ตับ หรือปอด
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน อาการทั่วไป ได้แก่
- ท้องผูกหรือท้องเสียเป็นเวลานาน
- อุจจาระมีเลือดปนหรือสีดำคล้ำ
- ปวดท้องหรือรู้สึกแน่นท้องบ่อยครั้ง
- น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ
- รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
- รู้สึกอิ่มเร็วหรือมีการเปลี่ยนแปลงนิสัยการขับถ่าย
มะเร็งลำไส้ใหญ่ รักษาหายไหม?
การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับระยะของโรค หากพบในระยะแรก (ระยะที่ 1-2) มีโอกาสรักษาหายสูง โดยการรักษามีหลายวิธี เช่น:
- การผ่าตัด: เพื่อเอาส่วนที่มีมะเร็งออก
- การให้เคมีบำบัด (Chemotherapy): ใช้ยาทำลายเซลล์มะเร็ง
- การฉายแสง (Radiation Therapy): ใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งในระยะที่ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่น
- การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy): รักษาโดยใช้ยาเจาะจงทำลายเซลล์มะเร็ง
หากพบและรักษาในระยะแรก มะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถรักษาหายขาดได้ อย่างไรก็ตาม การป้องกันและการตรวจสุขภาพเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยง