กระเพาะทะลุ คือ ภาวะที่ผนังกระเพาะอาหารเกิดรูขึ้น ทำให้กรดในกระเพาะ, เศษอาหาร และเชื้อแบคทีเรียรั่วออกมาในโพรงช่องท้อง ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงและเสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหรือเสียชีวิตได้
สาเหตุของกระเพาะทะลุ
1. โรคและภาวะเจ็บป่วย
- การติดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร: ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
- แผลในกระเพาะอาหาร: จากการเกิดรอยแผลที่อาจพัฒนาไปสู่การทะลุ
- การอักเสบของลำไส้และโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร: ส่งผลให้ผนังกระเพาะอ่อนแอลง
- การใช้ยา: โดยเฉพาะยาที่อยู่ในกลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน, ยาสเตียรอยด์ และยาเคมีบำบัด ที่อาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอักเสบและเกิดแผลได้
- การผ่าตัดบริเวณกระเพาะอาหาร: อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทะลุหลังการผ่าตัด
2. อุบัติเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง
- บาดเจ็บจากการกระแทกบริเวณท้อง: ส่งผลกระทบกระเทือนถึงภายในกระเพาะอาหาร
- การถูกแทงหรือยิง: ทำให้ผนังกระเพาะได้รับความเสียหาย
- การรับประทานสารกัดกร่อนหรือสิ่งแปลกปลอม: ซึ่งสามารถกัดกร่อนผนังกระเพาะ
- พฤติกรรมเสี่ยง: เช่น ความเครียดเรื้อรัง, การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพกระเพาะอาหาร
อาการของกระเพาะทะลุ
- ปวดท้องรุนแรง: เริ่มต้นอย่างฉับพลันและต่อเนื่อง
- ท้องบวมและแข็งผิดปกติ: สังเกตจากการที่ผนังท้องดูตึงและแข็งกว่าปกติ
- มีไข้และหนาวสั่น: แสดงถึงการติดเชื้อในร่างกาย
- อ่อนเพลียและวิงเวียนศีรษะ: สาเหตุจากการขาดเลือดหรือความดันในร่างกาย
- หัวใจเต้นเร็ว: ประมาณ 120 ครั้ง/นาที
- หายใจถี่และเหนื่อย: เนื่องจากร่างกายพยายามชดเชยการขาดออกซิเจน
- คลื่นไส้และอาเจียน: รวมถึงการผลิตปัสสาวะ อุจจาระ หรือผายลมที่น้อยลง
การวินิจฉัยกระเพาะทะลุ
แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการซักประวัติและตรวจเลือดเพื่อประเมินสภาพร่างกาย เช่น ระดับเกลือแร่, ความเป็นกรดด่างในเลือด, การทำงานของตับและไต รวมถึงการตรวจปริมาณเม็ดเลือดแดงและขาว
การตรวจภาพรังสี
- เอกซเรย์ทางเดินอาหารส่วนบน เพื่อหาจุดที่เกิดการทะลุ
- CT Scan: ระบุตำแหน่งรูในผนังกระเพาะอาหารอย่างชัดเจน
การรักษากระเพาะทะลุ
1. การรักษาด้วยยา
- ยาลดกรดและยาเคลือบเยื่อบุกระเพาะ: ช่วยป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม
- ยาปฏิชีวนะ: เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไรและลดการติดเชื้อในช่องท้อง
2. การรักษาด้วยการผ่าตัด
- ในกรณีที่รูมีขนาดใหญ่หรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์อาจทำการผ่าตัดเพื่อตัดส่วนที่เสียหายออกและทำการระบายของเหลวออกจากช่องท้อง (เช่น การทำทวารเทียมหรือทวารเทียมของลำไส้)
3. การรักษาแบบสนับสนุน
- ให้สารน้ำและยารักษาความดันโลหิตผ่านทางหลอดเลือดดำ
- ให้สารอาหารที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูของร่างกาย
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- ภาวะเลือดออก: อาจทำให้เกิดช็อกหรือภาวะขาดเลือด
- การติดเชื้อในช่องท้อง: (Peritonitis) ซึ่งอาจลุกลามไปสู่ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemia)
- การเกิดฝีในช่องท้อง: จากการติดเชื้อเรื้อรัง
- ลำไส้ขาดเลือด: อันตรายต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับกระเพาะทะลุ
มีความเชื่อว่าการดื่มน้ำอัดลมหรือรับประทานอาหารรสเผ็ดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดกระเพาะทะลุ
- น้ำอัดลม: ถึงแม้ว่าจะมีกรดและแก๊ส แต่ไม่สามารถทำให้เกิดรูในผนังกระเพาะอาหารจนถึงขั้นทะลุได้
- อาหารรสเผ็ด: สารแคปไซซินในพริกอาจทำให้เกิดความแสบในกระเพาะ แต่ไม่สามารถทำให้เกิดแผลทะลุจนถึงขั้นรุนแรงได้
การป้องกันกระเพาะทะลุ
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
- ใช้ยาอย่างระมัดระวัง: โดยเฉพาะในกลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน หรือยาสเตียรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน
- ลดความเครียด: รักษาสมดุลทางจิตใจเพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
- ระมัดระวังในการรับประทานสารกัดกร่อนหรือสิ่งแปลกปลอม: ควรตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารและสารที่บริโภค
สรุป
กระเพาะทะลุ เป็นภาวะฉุกเฉินที่เกิดจากการที่ผนังกระเพาะอาหารมีรู ทำให้กรด, เศษอาหาร และเชื้อแบคทีเรียรั่วเข้าสู่โพรงช่องท้อง ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงและติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว ไม่ควรละเลยอาการปวดท้องที่รุนแรงหรือมีไข้ร่วมด้วย เพราะการรักษาที่ทันท่วงทีสามารถช่วยลดภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ.