มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ภัยเงียบที่ป้องกันได้ รู้เท่าทันอาการและวิธีลดความเสี่ยง

มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ภัยเงียบที่ป้องกันได้ รู้เท่าทันอาการและวิธีลดความเสี่ยง

กรมการแพทย์ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ ของทั้งเพศชายและหญิงในประเทศไทย จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทั้งการบริโภคอาหารไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟู้ด ปิ้งย่างไหม้เกรียม และเนื้อสัตว์แปรรูป โดยโรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะแรก และมีแนวโน้มรุนแรงหากตรวจพบช้า จึงควรตระหนักถึงสัญญาณเตือน และตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ

สาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงที่ควรรู้

มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง เริ่มต้นจาก ติ่งเนื้อในลำไส้ (polyp) ที่ค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็งในระยะ 10–15 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่:

  • รับประทานอาหารที่มี ไขมันสัตว์สูง หรืออาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม
  • บริโภคอาหารทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำ
  • กิน เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน เนื้อแดดเดียว
  • สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
  • ขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน
  • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ หรือเคยตรวจพบติ่งเนื้อในลำไส้

จากข้อมูลปี 2561 พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ราว 13,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 5,000 รายในประเทศไทย

อาการที่ควรเฝ้าระวัง

แม้มะเร็งลำไส้ใหญ่มักไม่มีอาการในระยะแรก แต่เมื่อโรคลุกลาม อาจมีอาการดังต่อไปนี้:

  • ถ่ายไม่สุด ถ่ายบ่อย ท้องผูกสลับท้องเสีย
  • อุจจาระมีมูกปนเลือด หรือมีเลือดสด
  • ลำอุจจาระเล็กลงกว่าปกติ
  • ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืดบ่อย
  • น้ำหนักลด อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที

ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงได้อย่างไร?

  1. หลีกเลี่ยงอาหารเสี่ยง
    • ลดอาหารไขมันสูง ปิ้งย่าง ไหม้เกรียม ฟาสต์ฟู้ด
    • หลีกเลี่ยงอาหารทอดซ้ำ และเนื้อสัตว์แปรรูป
  2. ปรับพฤติกรรมการกินและใช้ชีวิต
    • เพิ่มอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว ข้าวกล้อง
    • ดื่มน้ำสะอาด พักผ่อนให้เพียงพอ
    • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
    • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  3. งดพฤติกรรมเสี่ยง
    • งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อรา หรือสุกๆ ดิบๆ
  4. ตรวจคัดกรองเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป
    • ตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระปีละ 1 ครั้ง
    • หากผลผิดปกติควรส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม

การรักษาแนวใหม่: เคมีบำบัดที่บ้าน

เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง กรมการแพทย์และโรงพยาบาลในสังกัด ได้ร่วมดำเนินโครงการ Home Chemotherapy หรือการให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ช่วยลดภาระการเดินทาง ลดความแออัดของโรงพยาบาล และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ

สรุป

มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง คือภัยเงียบที่ป้องกันได้ หากใส่ใจสุขภาพ ตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทางพฤติกรรม โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีประวัติครอบครัว การเริ่มต้นดูแลสุขภาพวันนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้ายในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save