ประเทศไทยมีพื้นที่กว้างใหญ่ การคมนาคมทางอากาศจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คน การค้า และการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ จังหวัดที่มีสนามบิน (ท่าอากาศยานพาณิชย์) จึงเปรียบเสมือนประตูทางเข้าออกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในท้องถิ่นนั้นๆ
จังหวัดที่มี “ท่าอากาศยานนานาชาติ” (International Airports)
จังหวัดเหล่านี้ถือเป็นศูนย์กลางการบินของประเทศ รองรับเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูงมาก:
- ภาคกลางและปริมณฑล: กรุงเทพมหานคร (ท่าอากาศยานดอนเมือง – DMK) และ สมุทรปราการ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – BKK) ซึ่งเป็นศูนย์กลางหลักของประเทศ
- ภาคเหนือ: เชียงใหม่ (CNX) และ เชียงราย (CEI)
- ภาคใต้: ภูเก็ต (HKT) และ สงขลา (ท่าอากาศยานหาดใหญ่ – HDY)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ขอนแก่น, อุดรธานี, อุบลราชธานี ซึ่งถูกยกระดับให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติเพื่อรองรับการเติบโต
จังหวัดที่มี “ท่าอากาศยานภายในประเทศ” (Domestic Airports)
จังหวัดเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงภูมิภาคต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้การเดินทางข้ามภาคสะดวกและรวดเร็วขึ้น:
- ภาคเหนือ: ลำปาง, แม่ฮ่องสอน, แพร่, น่าน, พิษณุโลก, ตาก (แม่สอด), สุโขทัย
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: สกลนคร, นครพนม, เลย, ร้อยเอ็ด, บุรีรัมย์, นครราชสีมา
- ภาคใต้: นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, ชุมพร, ระนอง, ตรัง, นราธิวาส
- ภาคตะวันออก: ตราด
- ภาคตะวันตก: ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)
ความสำคัญของจังหวัดที่มีสนามบิน
การมีสนามบินพาณิชย์ทำให้จังหวัดนั้นๆ ได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล:
- กระตุ้นการท่องเที่ยว: เป็นเส้นทางหลักในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
- การขนส่งสินค้า: อำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้ามูลค่าสูงและสินค้าเกษตรที่เน่าเสียง่ายได้อย่างรวดเร็ว
- ศูนย์กลางธุรกิจ: ดึงดูดการลงทุนและเป็นจุดนัดหมายทางธุรกิจ ทำให้เมืองนั้นๆ กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจย่อยๆ ของภูมิภาค
โดยรวมแล้ว ประเทศไทยมีจังหวัดที่มีสนามบินพาณิชย์ให้บริการเที่ยวบินประจำอยู่กว่า 30 จังหวัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความครอบคลุมของโครงข่ายการบินที่พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั่วประเทศ