อาการของ มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละระยะของโรค ซึ่งการรู้เข้าใจถึงอาการในแต่ละระยะช่วยให้การรักษาและการจัดการกับโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเข้าใจโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อในลำไส้ใหญ่ ที่เซลล์เริ่มแบ่งตัวอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นก้อนหรือเนื้องอก
- เริ่มต้นจากติ่งเนื้อเล็กๆ ที่เรียกว่าโพลิป ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจพัฒนาเป็นมะเร็ง
ปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่มะเร็งลำไส้ใหญ่
- การบริโภคอาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม, อาหารแปรรูป, และไขมันสูง
- พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- การท้องผูกบ่อยครั้ง
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน อาจพบโดยบังเอิญในการตรวจสุขภาพ
- อาการที่ควรระวัง ได้แก่ ท้องผูกสลับท้องเสียผิดปกติ, อุจจาระมีเลือด, อ่อนเพลีย, น้ำหนักลด, และปวดท้องเรื้อรัง
การจำแนกประเภทระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ระยะที่ 0 เซลล์มะเร็งที่เป็นเพียงติ่งเนื้อ ซึ่งสามารถตรวจพบได้จากการส่องกล้อง (Colonoscopy) สามารถตัดออกผ่านทางกล้องไปได้ ตั้งแต่ก่อนการเป็นมะเร็งหรือเกือบเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีโอกาสหายขาด 100%
- ระยะที 1 เซลล์มะเร็งระยะเติบโตขึ้น เริ่มฝังในชั้นผนังของลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โดยยังไม่กระจายไปสู่เนื้อเยื่อข้างเคียงหรือต่อมน้ำเหลือง ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หรือ Curative resection เป็นการผ่าตัดลำไส้ใหญ่ส่วนที่ดีมาต่อกัน ทั้งยังเป็นเทคนิคที่ใช้ผ่าตัดในมะเร็งทวารหนักร่วมด้วยได้
- ระยะที 2 เซลล์มะเร็งแพร่กระจายผ่านผนังลำไส้ใหญ่ หรือทวารหนักไปสู่เนื้อเยื่อใกล้เคียง แต่ยังไม่กระจายถึงต่อมน้ำเหลือง สามารถใช้การผ่าตัดแบบ Curative resection เป็นการรักษาหลักเช่นเดียวกับระยะที 1
- ระยะที 3 เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง แต่ยังไม่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น รักษาโดยการผ่าตัดแบบ Curative resection ร่วมกับเคมีบำบัดหลังผ่าตัด (ซึ่งมีทั้งชนิดรับประทานและชนิดฉีด) ในกรณีที่เป็นมะเร็งทวารหนักอาจมีการรักษาด้วยการฉายแสงร่วมด้วย
- ระยะที 4 มะเร็งแพร่กระจายลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ตับ, ปอด หากก้อนมะเร็งที่ลุกลามไปที่ตับหรือปอดสามารถตัดออกได้ แพทย์จะทำการผ่าตัดมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่หรือทวารหนักออก พร้อมผ่าตัดมะเร็งที่ลุกลามไปยังตับหรือปอดออกด้วย แล้วจึงให้ยาเคมีบำบัดต่อไป
การวินิจฉัยและการตรวจติดตามมะเร็งลำไส้ใหญ่
- การวินิจฉัยผ่านการสอบประวัติ, การตรวจร่างกาย, การตรวจอุจจาระ, และการส่องกล้องลำไส้ใหญ่
- หลังการรักษาต้องรับการตรวจติดตามเป็นระยะๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
การป้องกันและการดูแลตัวเองหลังการรักษา
- หลีกเลี่ยงอาหารเสี่ยง เช่น เนื้อแดงและไขมันสูง
- เน้นการบริโภคผักและผลไม้สูงใย
- ออกกำลังกายและรักษาน้ำหนักให้เหมาะสม
- ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อติดตามอาการและป้องกันการกลับเป็นโรค
การเข้าใจและการตระหนักรู้เกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถช่วยให้การดูแลและการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้การปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันและการตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอยังเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงและปรับปรุงคุณภาพชีวิตหลังการรักษา