เลือดกำเดาไหล หรือที่เรียกว่า “Epistaxis” ในภาษาอังกฤษ เกิดจากการแตกหรือการระคายเคืองของเส้นเลือดเล็กๆ ในเยื่อบุจมูก ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการกระทบกระเทือน การแคะจมูก อากาศแห้ง การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน โรคเรื้อรังเช่นความดันโลหิตสูง หรือการใช้ยาบางชนิด
การรักษาเลือดกำเดาไหลเบื้องต้น รวมถึงการนั่งตรงและโน้มตัวไปข้างหน้า บีบจมูก ใช้น้ำแข็งประคบ และหลีกเลี่ยงการระคายเคืองจมูก ควรดื่มน้ำมากๆ และกินอาหารที่มีวิตามินซีและเคสูงเพื่อเสริมความแข็งแรงของเส้นเลือด หากเลือดกำเดาไหลบ่อยหรือไม่หยุดไหลควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
เลือดกำเดาไหล ภาษาอังกฤษ
“Epistaxis” หรือ “Nosebleed”
เลือดกำเดาไหล สาเหตุ
เลือดกำเดาไหลสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น:
- แผลหรือการระคายเคืองในจมูก: การแคะจมูกหรือการใช้วัตถุแปลกปลอมทำให้เกิดแผล
- สภาวะอากาศแห้ง: อากาศที่แห้งมากทำให้เยื่อบุจมูกแห้งและแตกง่าย
- การติดเชื้อ: การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไซนัสอักเสบ
- โรคเรื้อรัง: เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเลือด หรือโรคตับ
- การใช้ยาบางชนิด: ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาสเตียรอยด์
เลือดกำเดาไหลเกิดจากอะไร
เลือดกำเดาไหลเกิดจากการแตกหรือการระคายเคืองของเส้นเลือดเล็กๆ ในเยื่อบุจมูก ซึ่งอาจเกิดจากการกระทบกระเทือน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การติดเชื้อ หรือการใช้ยา
วิธีแก้เลือดกำเดาไหล
- นั่งตรงและโน้มตัวไปข้างหน้า: เพื่อให้เลือดไหลออกมาจากจมูกแทนที่จะไหลลงคอ
- บีบจมูก: ใช้นิ้วบีบจมูกทั้งสองข้างตรงบริเวณด้านล่างของกระดูกจมูก ค้างไว้ประมาณ 5-10 นาที
- ใช้น้ำแข็ง: วางถุงน้ำแข็งบนจมูกและหน้าผากเพื่อช่วยห้ามเลือด
- หลีกเลี่ยงการแคะจมูกหรือการระคายเคืองจมูก: และควรใช้ความระมัดระวังในการใช้สเปรย์หรือยาสูดพ่น
- ปรึกษาแพทย์: หากเลือดกำเดาไหลบ่อยหรือไม่หยุดไหล ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและการรักษาเพิ่มเติม
เลือดกำเดาไหลตอนนอน
เลือดกำเดาไหลตอนนอนอาจเกิดจาก:
- การนอนในห้องที่มีอากาศแห้ง: ทำให้เยื่อบุจมูกแห้งและแตกง่าย
- การใช้ยาสูดพ่นหรือยาสเปรย์จมูก: ที่ทำให้จมูกแห้ง
- ความดันโลหิตสูง: ที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการนอน
เลือดกำเดาไหล กินอะไร
เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของเลือดกำเดาไหล ควร:
- ดื่มน้ำมากๆ: เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อบุจมูก
- กินอาหารที่มีวิตามินซีและเคสูง: เช่น ส้ม กีวี ผักใบเขียว เพื่อเสริมความแข็งแรงของเส้นเลือด