น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันธรรมชาติที่สกัดจากผลมะกอก อุดมไปด้วยไขมันดี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ปัจจุบันได้รับความนิยมทั้งในการประกอบอาหาร การดูแลสุขภาพ และการใช้ในด้านความงาม
คุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันมะกอก (ต่อ 100 มิลลิลิตร)
- พลังงาน: 884 กิโลแคลอรี่
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว: 73 กรัม
- ไขมันอิ่มตัว: 13.8 กรัม
- วิตามินอี: 14.4 มิลลิกรัม
- วิตามินเค: 60.2 ไมโครกรัม
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก
1. ช่วยลดน้ำหนัก
- น้ำมันมะกอกช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน
- กระตุ้นการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความอยากอาหาร
2. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด
- ลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (ไขมันไม่ดี)
- เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL (ไขมันดี)
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
3. ลดความดันโลหิต
- โอเมก้า-3 ในน้ำมันมะกอกช่วยควบคุมความดันโลหิต
- สารโพลีฟีนอลช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวและทำงานได้ดีขึ้น
4. ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
- มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
5. ต้านการอักเสบและป้องกันโรคข้ออักเสบ
- มีสาร Oleocanthal ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- บรรเทาอาการข้ออักเสบรูมาตอยด์
6. บำรุงสมอง ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
- สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันความเสื่อมของสมอง
- ลดการสะสมของโปรตีนเบต้า-อะไมลอยด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์
7. เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
- ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
น้ำมันมะกอกเพื่อความงาม
1. บำรุงผิว
- เพิ่มความชุ่มชื้น ลดผิวแห้ง
- ลดริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
2. บำรุงเส้นผม
- ลดปัญหาผมร่วง ผมแตกปลาย
- ช่วยให้เส้นผมนุ่มสลวย มีน้ำหนัก
3. ช่วยรักษาสิว
- มีสารต้านการอักเสบ ช่วยลดการเกิดสิว
วิธีใช้น้ำมันมะกอกในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ
- สลัดผลไม้น้ำมันมะกอก: ผสมกับน้ำส้มบัลซามิกเพื่อใช้เป็นน้ำสลัด
- แซลมอนย่างน้ำมันมะกอก: ใช้แทนน้ำมันพืชเพื่อเพิ่มไขมันดี
- ข้าวผัดน้ำมันมะกอก: ใช้แทนน้ำมันพืชสำหรับเมนูข้าวผัดเพื่อสุขภาพ
ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันมะกอก
- ไม่ควรใช้น้ำมันมะกอกทอดอาหารที่ใช้ความร้อนสูง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระวังปริมาณที่บริโภค
- ผู้ที่มีปัญหาตับและถุงน้ำดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานเกิน 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
สรุป
น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยไขมันดี มีประโยชน์ทั้งต่อหัวใจ สมอง กระดูก และสุขภาพโดยรวม แต่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้กับอุณหภูมิสูงเกินไปเพื่อรักษาคุณค่าทางอาหารให้ครบถ้วน