Title: อาการมะเร็งปากมดลูกในแต่ละระยะ สัญญาณเตือนที่ผู้หญิงควรใส่ใจ
มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบมากในผู้หญิงไทย และมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ก่อมะเร็ง การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้ แต่ปัญหาคือในระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน ทำให้หลายคนมารับการรักษาเมื่อโรคลุกลามแล้ว ดังนั้น การรู้จักอาการของมะเร็งปากมดลูกในแต่ละระยะจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ระยะก่อนเป็นมะเร็ง (Precancerous stage)
- ไม่มีอาการชัดเจน
- ตรวจพบได้จากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เช่น แป๊ปสเมียร์ (Pap smear) หรือ HPV DNA test
- เป็นช่วงที่เซลล์เยื่อบุปากมดลูกเริ่มเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่กลายเป็นมะเร็ง
แนวทาง: หากพบในระยะนี้สามารถรักษาได้ด้วยวิธีจี้เย็น ตัดชิ้นเนื้อ หรือผ่าตัดเล็ก ป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็นมะเร็ง
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 (Stage I)
- ก้อนมะเร็งยังอยู่เฉพาะบริเวณปากมดลูก
- อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ เช่น หลังมีเพศสัมพันธ์ หรือระหว่างรอบเดือน
- มีตกขาวมากขึ้น กลิ่นเหม็น หรือสีผิดปกติ
- ปวดหน่วงท้องน้อยเล็กน้อย
แนวทาง: รักษาด้วยการผ่าตัดมดลูก หรือการให้รังสีร่วมกับเคมีบำบัด ขึ้นกับขนาดของก้อนและแผนการรักษาของแพทย์
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 2 (Stage II)
- ก้อนมะเร็งเริ่มลุกลามออกจากปากมดลูก แต่ยังไม่ถึงผนังอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอดส่วนล่าง
- อาการชัดเจนขึ้น เช่น เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติเรื้อรัง ปวดท้องน้อยเรื้อรัง หรือรู้สึกอ่อนเพลีย
- อาจมีอาการปวดหลัง ปวดขาร่วมด้วย
แนวทาง: ใช้รังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัดเป็นหลัก ไม่สามารถผ่าตัดได้ในหลายกรณี
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 (Stage III)
- มะเร็งลุกลามไปยังผนังอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอดส่วนล่าง
- อาจกดทับท่อไต ทำให้ปัสสาวะลำบากหรือมีเลือดปน
- ปวดท้องน้อยและหลังอย่างรุนแรง อาจมีอาการบวมน้ำที่ขา
แนวทาง: รังสีรักษาและเคมีบำบัดเป็นวิธีหลักในการควบคุมอาการและชะลอการลุกลาม
มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 (Stage IV)
- มะเร็งแพร่กระจายออกนอกอุ้งเชิงกราน เช่น ไปยังกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ หรืออวัยวะอื่น ๆ เช่น ปอด ตับ
- อาการรุนแรง เช่น เลือดออกมากจากช่องคลอด ปวดอย่างต่อเนื่อง น้ำหนักลด อ่อนเพลียมาก
- อาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ไตวาย ลำไส้อุดตัน
แนวทาง: รักษาแบบประคับประคองเพื่อคุณภาพชีวิต เช่น เคมีบำบัด รังสีรักษา และการดูแลอาการร่วม
สรุปมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก สามารถรักษาให้หายได้หากพบในระยะเริ่มต้น การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ เช่น แป๊ปสเมียร์ หรือ HPV DNA Test จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติเสี่ยง เช่น มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย เปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือไม่เคยได้รับวัคซีน HPV หากพบความผิดปกติของตกขาว เลือดออกผิดปกติ หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง ควรรีบพบแพทย์ทันที