ลูกพลับ (Persimmon) เป็นผลไม้ที่มีรสหวาน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การบริโภคในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดโทษได้
ประโยชน์ของลูกพลับ
- บำรุงสายตา
- อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพสายตา
- เสริมระบบภูมิคุ้มกัน
- มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันหวัดและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- มีโพแทสเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความดันโลหิต
- ส่งเสริมการย่อยอาหาร
- มีไฟเบอร์สูง ช่วยป้องกันท้องผูก
โทษของลูกพลับ
- เกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร
- ลูกพลับดิบมีสารแทนนินสูง หากบริโภคในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการตกตะกอนในกระเพาะอาหาร
- น้ำตาลสูง
- ลูกพลับสุกมีปริมาณน้ำตาลธรรมชาติสูง อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
- อาการท้องอืด
- ไฟเบอร์สูงในลูกพลับอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือไม่สบายท้องหากบริโภคมากเกินไป
- สารเคมีตกค้างในลูกพลับจีน
- ลูกพลับจากจีนบางชนิดอาจมีสารเคมีตกค้างจากกระบวนการผลิต ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
ลูกพลับอ้วนไหม?
ลูกพลับมีน้ำตาลและพลังงานปานกลาง (ประมาณ 70 แคลอรี่ต่อ 100 กรัม) หากบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ จะไม่ทำให้อ้วน แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับ
ลูกพลับกินยังไง?
- ลูกพลับสุก
- ล้างให้สะอาด ปอกเปลือก หรือหั่นเป็นชิ้นพร้อมรับประทาน
- ลูกพลับแห้ง
- นิยมรับประทานเป็นของว่าง หรือใช้เป็นส่วนผสมในขนมและอาหาร
- ลูกพลับดิบ
- ควรล้างน้ำให้สะอาดหลายครั้งเพื่อลดสารแทนนิน
คำแนะนำในการบริโภค
- เลือกลูกพลับจากแหล่งที่ปลอดภัยและปราศจากสารเคมีตกค้าง
- บริโภคในปริมาณพอเหมาะเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ
- สำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำตาล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
สรุป: ลูกพลับ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรบริโภคอย่างระมัดระวังและในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น